การเทรดหุ้นและ TFEX กลายเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องในหมู่คนไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้ที่มีประสบการณ์การใช้เทคโนโลยี ตามข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าจำนวนบัญชีซื้อขายใหม่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนอายุ 25-40 ปี
การเทรดแตกต่างจากการลงทุนระยะยาวตรงที่เน้นการหาผลกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น ทั้งในตลาดหุ้น (SET) และตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ซึ่งแต่ละตลาดมีลักษณะและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน
การเทรดคืออะไร?
การเทรด (Trading) คือการซื้อขายหลักทรัพย์ในระยะสั้นเพื่อหาผลกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคา โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก
1. เทรดหุ้น (Stock Trading)
- การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
- เวลาเทรด: 10:00-12:30 น. และ 14:00 - 16:30 น.
- ใช้ระบบ T+2 (รับเงินและหุ้นภายใน 2 วันทำการ)
- สามารถเทรดผ่าน Yuanta NAVI ได้อย่างสะดวก
2. เทรด TFEX (Futures Trading)
- การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives)
- เวลาเทรด: 9:45 - 12:30 น., 13:45 - 16:55 น., และ 18:50 - 03.00 น. ของวันถัดไป
- ใช้ระบบ Margin และมี Leverage สูงถึง 10-20 เท่า
- สามารถเทรดผ่าน MT4 ที่รองรับ Robot Trade
ประเภทของการเทรด
- Day Trading: เปิดและปิดสถานะในวันเดียว
- Swing Trading: ถือสถานะ 2-10 วัน เหมาะสำหรับผู้ทำงานประจำ
- Scalping: เทรดระยะสั้นมาก นาทีหรือชั่วโมง
ทำไมต้องสนใจการเทรด?
- โอกาสผลกำไรสูง - สามารถทำกำไรได้ในทุกสภาวะตลาด ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง โดยเฉพาะ TFEX ที่สามารถเปิดสถานะ Short ได้ง่าย
- สภาพคล่องดี - ตลาดหุ้นไทยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันประมาณ 70,000-80,000 ล้านบาท ทำให้สามารถเข้าออกจากตำแหน่งได้รวดเร็ว
- ความยืดหยุ่น - สามารถเทรดได้ตามเวลาที่สะดวก โดยเฉพาะ TFEX ที่เปิดเทรดได้ถึงตี 3
วิธีเริ่มต้นเทรดอย่างถูกต้อง
ขั้นตอนที่ 1: เตรียมความพร้อม
ศึกษาความรู้เบื้องต้น (2-4 สัปดาห์)
- เรียนรู้การอ่านกราฟเทคนิค
- ทำความเข้าใจเรื่อง Support และ Resistance
- ศึกษาตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น RSI, MACD
- สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “5 กลยุทธ์เทรด TFEX สำหรับมือใหม่ เริ่มต้นไม่ยาก”
เตรียมเงินทุน
- เทรดหุ้น: เริ่มต้น 50,000-100,000 บาท
- เทรด TFEX: ควรมีอย่างน้อย 100,000-200,000 บาท
- ใช้เงินที่พร้อมเสี่ยงและไม่กระทบการใช้ชีวิต
ขั้นตอนที่ 2: เลือกโบรกเกอร์และเปิดบัญชี
- ตรวจสอบใบอนุญาตจาก ก.ล.ต.
- เปรียบเทียบค่านายหน้าและค่าธรรมเนียม
- เตรียมเอกสาร: บัตรประชาชน, สำเนา Book Bank
- รอการอนุมัติ (1-3 วันทำการ)
ขั้นตอนที่ 3: เลือกแพลตฟอร์มเทรด
ตัวอย่างแพลตฟอร์มเทรดที่รองรับการเทรดหุ้น และ TFEX
Yuanta NAVI - เหมาะสำหรับเทรดหุ้น
- ระบบใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่
- มีการวิเคราะห์ครบครัน จากทีมนักวิเคราะห์
- ฟีเจอร์ Smart Search ค้นหาหุ้นได้ง่าย
Streaming - แพลตฟอร์มมาตรฐานสำหรับทุกคน
- เป็นแอปมาตรฐานที่พัฒนาโดย Settrade ทำให้โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ให้บริการ
- รองรับการเทรดทั้งหุ้นและ TFEX ได้ครบจบในแอปเดียว
- มีเครื่องมือพื้นฐานสำหรับนักเทรดครบครัน เช่น กราฟเทคนิค และ Conditional Order
- เหมาะสำหรับนักเทรดทุกคน ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงมืออาชีพที่ต้องการความสะดวกและความคุ้นเคย
MT4 - สำหรับเทรด TFEX
- เครื่องมือ Technical Analysis ครบครัน
- รองรับการทำ Robot Trade
- เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการความแม่นยำสูง
ข้อควรระวังและการบริหารความเสี่ยง
ความเสี่ยงสำคัญ
1. ความเสี่ยงจากการขาดทุน สถิติแสดงว่า 70-80% ของ Day Trader มือใหม่ขาดทุนในปีแรก เนื่องจากขาดประสบการณ์และการบริหารความเสี่ยงที่ดี
2. การใช้ Leverage อย่างไม่เหมาะสม TFEX มี Leverage สูงถึง 10-20 เท่า หากใช้ไม่เหมาะสมอาจสูญเสียเงินทุนได้ทั้งหมดในเวลาสั้น
3. จิตวิทยาการเทรด ความโลภและความกลัวเป็นศัตรูของนักเทรด หลายคนรู้หลักการแต่ทำไม่ได้จริงเมื่อเจอสถานการณ์
หลักการบริหารความเสี่ยง
- กฎ 1-2% - ไม่เสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนต่อ 1 Trade
- การกระจายความเสี่ยง - ไม่ลงทุนในหุ้นตัวเดียวมากเกินไป แบ่งเงินทุนเป็นส่วนๆ
- การตั้ง Stop Loss และ Take Profit - จำกัดการขาดทุนและเก็บกำไรอย่างมีระบบ
การเริ่มต้นเทรดหุ้นและ TFEX ต้องอาศัยการเตรียมความพร้อมอย่างรอบคอบ ตั้งแต่การศึกษาความรู้พื้นฐาน การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม ไปจนถึงการบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวด
สิ่งสำคัญที่สุดคือการเริ่มต้นเทรดด้วยความระมัดระวัง ใช้เงินทุนที่เหมาะสม และมีแผนการลงทุนที่ชัดเจน นักเทรดมือใหม่ควรเริ่มจากหุ้นก่อน TFEX เพื่อสะสมประสบการณ์และทำความเข้าใจกลไกตลาด การเลือกแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือจะช่วยให้การเทรดเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
หากคุณกำลังมองหาโอกาสการเทรดที่เหมาะสม Yuanta Securities พร้อมเป็นพันธมิตรการเทรดของคุณด้วยประสบการณ์กว่า 49 ปี ใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. และเครื่องมือการเทรดที่ทันสมัย
ทั้ง Yuanta NAVI สำหรับเทรดหุ้น และ MT4 สำหรับเทรด TFEX ทีมนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาการเทรดที่เหมาะสมกับระดับประสบการณ์ของคุณ
เปิดบัญชีได้ที่ https://www.yuanta.co.th/ หรือติดต่อสอบถาม เพื่อเริ่มต้นเส้นทางการเทรดที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: เริ่มต้นเทรดต้องมีเงินเท่าไหร่?
A: สำหรับเทรดหุ้นเริ่มต้นได้ที่ 50,000 บาท สำหรับ TFEX ควรมีอย่างน้อย 100,000 บาท ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น สิ่งสำคัญคือควรใช้เงินที่พร้อมเสี่ยงและไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายประจำ นอกจากนี้ยังต้องเตรียมเงินสำรองสำหรับค่า Margin Call ในกรณีเทรด TFEX และควรแบ่งเงินทุนออกเป็นส่วนๆ ไม่ใช้ทั้งหมดในครั้งเดียว
Q: ควรเริ่มเทรดหุ้นหรือ TFEX ก่อน?
A: แนะนำเริ่มจากหุ้นก่อน เพราะความเสี่ยงต่ำกว่าและเรียนรู้ง่ายกว่า การเทรดหุ้นจะช่วยให้คุณเข้าใจจิตวิทยาตลาด การอ่านกราฟเทคนิค และการบริหารอารมณ์ระหว่างเทรด เมื่อมีประสบการณ์ 6-12 เดือนแล้วจึงค่อยเริ่มศึกษา TFEX ซึ่งมีความซับซ้อนและ Leverage สูงกว่า
Q: Demo Account สำคัญไหม?
A: สำคัญมาก ควรฝึกฝนใน Demo อย่างน้อย 1-3 เดือนก่อนใช้เงินจริง Demo Account จะช่วยให้คุณทดสอบกลยุทธ์ ฝึกใช้แพลตฟอร์ม และเรียนรู้การตั้ง Stop Loss/Take Profit โดยไม่เสียเงินจริง ใน Yuanta NAVI และ MT4 มี Demo Account ให้ทดลองใช้ฟรี รวมถึงข้อมูลราคาแบบ Real-time
Q: การเทรดกับการลงทุนแตกต่างกันอย่างไร?
A: การเทรดเน้นผลกำไรระยะสั้น (วัน-สัปดาห์) จากความผันผวนของราคา ใช้การวิเคราะห์เทคนิคเป็นหลัก ในขณะที่การลงทุนเน้นการถือครองระยะยาว (เดือน-ปี) โดยดูจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัท การเทรดต้องใช้เวลาติดตามตลาดมากกว่า แต่สามารถทำกำไรได้ในทุกสภาวะตลาด ส่วนการลงทุนต้องใช้ความอดทนและรอให้บริษัทเติบโต
คำเตือน: การเทรดมีความเสี่ยงสูง ผู้เทรดอาจสูญเสียเงินทุนได้ทั้งหมด โดยเฉพาะการเทรด TFEX ควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและทดลองผ่าน Demo Account ก่อนการเทรดด้วยเงินจริง