ในโลกของการลงทุน นักลงทุนทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าอาจเคยเห็นคำว่า การลงทุน DR ผ่านตากันมาบ้าง แต่รู้หรือไม่ว่า การลงทุน DR คืออะไรกันแน่ ?

การลงทุน DR ที่ว่านี้ เป็นหนึ่งในทางเลือกใหม่สำหรับนักลงทุนยุคนี้ ที่จะมอบโอกาสให้นักลงทุนสามารถลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์ในต่างประเทศได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีกลยุทธ์การลงทุนแตกต่างกันไปตามจุดประสงค์ทางการเงิน แต่ก่อนจะพูดถึงเรื่องกลยุทธ์ที่พลาดไม่ได้ ก็ต้องมาทำความรู้จักกับการลงทุน DR ก่อนว่ามันคืออะไร

 

การลงทุน DR คืออะไร? 

       การลงทุน DR (Depository Receipts) หรือ ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ คือ ตราสารที่ออกมาโดยมีหลักทรัพย์ต่างประเทศอ้างอิง (underlying asset) 

       เหตุผลที่ควรลงทุน DR คือ ลงทุนหุ้นต่างประเทศง่ายๆ ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทย ซื้อขายด้วยเงินบาท สะดวก รวดเร็ว ใช้บัญชีเดียวกับการซื้อขายหุ้นไทย และสามารถเข้าถึงโอกาสลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ

       โดย DR มีขั้นตอนการทำงานดังนี้ คือ  

1.ผู้ออก DR ซื้อหุ้นหรือ ETF ต่างประเทศมาเก็บไว้

2.ออก DR เป็นตราสารแสดงสิทธิ เสนอขายให้นักลงทุนไทย

3.นักลงทุนไทยซื้อ DR เสมือนการซื้อหุ้นหรือ ETF ต่างประเทศ

4.นักลงทุนได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เหมือนลงทุนในต่างประเทศโดยตรง

       ซึ่งถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนในไทย ให้สามารถซื้อขายด้วยเงินบาท อีกทั้งยังสามารถใช้บัญชีเดียวกันได้เช่นกันกับการซื้อขายหุ้นทั่วไปในไทยได้อีกด้วย

 

เริ่มลงทุนหุ้น DR ต้องทำยังไง ?

       แน่นอนว่าหุ้น DR คือหุ้นต่างประเทศที่มีการซื้อขายในประเทศไทย แต่นักลงทุนส่วนใหญ่มักสับสนไม่รู้ว่าจะเริ่มลงทุน DR อย่างไรดี เราจึงมีขั้นตอนการเลือกหุ้น DR ลงทุนมาเสนอเพื่อให้นักลงทุนเข้าใจภาพมากขึ้น

 

1. เลือกหุ้น DR ตามประเทศที่ต้องการลงทุน

  • เนื่องจากแต่ละประเทศมีภาวะทางเศรษฐกิจ นโยบายทางการเมืองแตกต่างกันออกไป ผลการดำเนินงานของตลาดทั่วโลกจึงไม่เท่ากัน เช่น ในปี 2566 SET ปรับตัวลดลงกว่า 13.8% ในขณะที่ NASDAQ ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 43.4% หรือ FSTE100 เพิ่มขึ้น 17.8% หรือตลาดเวียดนามปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.1% เป็นต้น ดังนั้นการเลือกลงทุนในประเทศที่มีศักยภาพจึงสำศัญเป็นอันดับหนึ่ง โดยปัจจุบัน DR ในประเทศไทยมีทั้งหมด 23 ตัว แบ่งตามประเทศได้ดังนี้
    • ประเทศจีน: BABA80, BIDU80, BYDCOM80, NETEASE80, PINGAN80, TENCENT80, XIAOMI80
    • ประเทศฮ่องกง: CN01, CNTECH01, HK01, HKCE01, HK13, HKTECH13
    • ประเทศฝรั่งเศส: LVMH01
    • ประเทศญี่ปุ่น: JAPAN13
    • ประเทศเนเธอร์แลนด์: ASML01
    • ประเทศสิงคโปร์: SIA19, ST19, VENTURE19
    • ประเทศสหรัฐฯ: NDX01
    • ประเทศเวียดนาม: E1VFVN3001, FUEVFVND01

 

2. เลือกหุ้น DR ตามประเภทสินทรัพย์อ้างอิง

  • ลงทุน DR ที่อ้างอิงกับ ETF
    • เปรียบเสมือนลงทุนในกองทุนที่เลือกหุ้นกระจายในหลายอุตสาหกรรมตามดัชนีที่ได้ประกาศไว้ ไม่ได้เจาะจงลงทุนหุ้นตัวหนึ่งตัวใดโดยเฉพาะ เช่น S&P500 ETF คือ กองทุนมีนโนบายลงทุนหุ้นภายในดัชนี S&P500 เป็นต้น จึงช่วยในนักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงพอร์ตในประเทศที่เลือกไว้ได้อย่างเต็มที่ ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดเดียว หรือหุ้นตัวเดียว
    • DR ที่อ้างอิง ETF มีทั้งหมด 11 ตัว ดังนี้ CN01, CNTECH01, E1VFVN3001, FUEVFVND01, HK01, HKCE01, NDX01, STAR5001, HK13, HKTECH13, JAPAN13 
  • ลงทุน DR ที่อ้างอิงกับหุ้นสามัญ
    • เลือกหุ้นลงทุนในกิจการเฉพาะเจาะจง โดยนักลงทุนอาจเลือกพิจารณาหุ้นที่มีพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง โมเดลธุรกิจที่ชัดเจน มีการเติบโตอย่างยั่งยืน งบการเงินดีหรืออัตราปันผลสูง โดยสามารถดูข้อมูลหุ้นอ้างอิงได้ที่ https://www.set.or.th/th/market/product/dr/overview
    • DR ที่อ้างอิงหุ้นสามัญมีทั้งหมด 12 ตัว ดังนี้ ASML01, LVMH01, BABA80, BIDU80, BYDCOM80, NETEASE80, PINGAN80, TENCENT80, XIAOMI80, SIA19, ST19, VENTURE19

 

3. เลือกสัดส่วนการลงทุน และกลยุทธ์ลงทุน

  • เนื่องจาก DR เป็นการลงทุนหุ้นต่างประเทศ นักลงทุนควรกำหนดสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงพอร์ตและอายุ เช่น กำหนดสัดส่วนลงทุนหุ้นไทย 80% หุ้น DR 20% หรือ หุ้นไทย 50% หุ้น DR 50% เป็นต้น
  • นอกจากนี้การมีกลยุทธ์ลงทุนหุ้น DR ก็สำศัญเช่นเดียวกัน โดยกลยุทธ์การลงทุนหุ้น DR ก็เหมือนกับการลงทุนหุ้นไทย
    • Mega Trend Investing: เน้นเลือกหุ้น DR ที่ดำเนินกิจการในอุตสาหกรรมที่มีความต้องการในอนาคต เช่น กลุ่มเทคโนโลยี รถไฟฟ้า พลังงานทดแทน AI เป็นต้น
    • Event Investing: ลงทุนเมื่อเกิดเหตุการณ์สำศัญที่ส่งผลต่อราคาหุ้นตัวนั้น เช่น ประกาศงบการเงิน ประกาศการจ่ายปันผล หรือประกาศผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เป็นต้น
    • Value Investing: คัดสรรหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน เพราะเชื่อว่าราคาในตลาดจะวิ่งไปหามูลค่าที่เหมาะสมในระยะยาว โดยอาจพิจารณาค่า P/E, P/BV หรือ Intrinsic Value เป็นต้น 
  • สิ่งสุดท้ายในการตัดสินใจลงทุนคือ จังหวะเข้าลงทุน ปัจจุบันมีเทคนิคลงทุนหลากหลายมาก เช่น การลงทุนเพียงครั้งเดียว (One-Time purchase) การลงทุนแบบถัวต้นทุนเฉลี่ย (Dollar Cost Averaging) หรือการใช้ Technical Indicator เข้ามาจับจังหวะเพื่อลงทุน เป็นต้น
  • ดังนั้นนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน วางแผนและกำหนดขอบเขตการลงทุนตามสถานการณ์เพื่อการลงทุนที่ยั่งยืน

 

การลงทุน DR ควรระวังเรื่องใดบ้าง ?

  • ผู้ออก DR ไม่ใช่บริษัทเจ้าของหลักทรัพย์ต่างประเทศ แต่เป็นผู้ถือแทนนักลงทุน
  • มีค่าธรรมเนียมการออกและไถ่ถอน DR
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีผลต่อราคา DR
  • ความเสี่ยงจากตลาดหุ้นต่างประเทศ
  • ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง: DR บางตัวมีสภาพคล่องต่ำ อาจซื้อขายยาก
  • ความเสี่ยงของต่างประเทศ: DR อ้างอิงกับหลักทรัพย์ต่างประเทศ นักลงทุนต้องศึกษาความเสี่ยงทางการเมือง เศรษฐกิจ กฎระเบียบ ของประเทศนั้นๆ
  • ความเสี่ยงจากผู้ดูแล: DR อ้างอิงกับหลักทรัพย์ต่างประเทศ นักลงทุนต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ดูแล

 

ลงทุน DR ที่ไหนดี ?

       อ่านมาถึงตรงนี้นักลงทุนน่าจะเข้าใจแล้วว่าการลงทุน DR คืออะไร และเริ่มหันมามีความสนใจลงทุน DR กันแล้วใช่ไหม ? ไม่ว่าจะความสะดวกสบายในการลงทุน อีกทั้งสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ ซึ่งแตกต่างกับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศด้วยตนเองอย่างสิ้นเชิง ทั้งหมดนี้ ตอบโจทย์กับเหล่านักลงทุนยุคใหม่ที่สนใจอยากเริ่มต้นลงทุนในหุ้นหรือ ETF ต่างประเทศด้วยตนเองได้อย่างง่ายดาย

       หากนักลงทุนสนใจการลงทุนใน DR บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มีทางเลือกใหม่นี้ให้แก่นักลงทุน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://dr.yuanta.co.th ด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย ทันสมัย และพร้อมให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสร้างกลยุทธ์การลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมให้ความดูแลและให้คำปรึกษากับผู้ที่สนใจการลงทุน DR ซึ่งหากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำสามารถติดต่อเราได้ทุกช่องทางการติดต่อ 

Open Account.webp