การออมเงินเพื่อลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่เรื่องยากหากคุณมีแผนและวิธีการที่เหมาะสม สำหรับพนักงานเงินเดือนและนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นสร้างความมั่งคั่งระยะยาว 

  การรู้จักวิธีออมเงินที่มีประสิทธิภาพและการเลือกระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมจะเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายทางการเงิน บทความนี้จะแนะนำเทคนิคการออมเงินที่ได้ผลจริง พร้อมวิธีเริ่มลงทุนกองทุนรวมแม้จะมีเงินจำนวนน้อย

วิธีออมเงินเพื่อลงทุนได้ผลจริง

  การออมเงินที่ประสบความสำเร็จเริ่มต้นจากการออมก่อนใช้จ่าย ไม่ใช่การเก็บเงินที่เหลือหลังใช้จ่าย วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถออมเงินได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน

1.วิธีแบ่งเงินเดือนเพื่อการออมและลงทุน

สูตร 50/30/20 สำหรับการออมเงิน

  • 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น (อาหาร ที่อยู่ เดินทาง)
  • 30% สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัว (ความบันเทิง ช้อปปิ้ง)
  • 20% สำหรับการออมและลงทุน

2.การแบ่งเงินออม 20% อย่างมีประสิทธิภาพ

เงินออมส่วน 20% ควรแบ่งเป็น

  • 10% เป็นเงินฉุกเฉิน → ฝากในกองทุนตลาดเงิน
  • 5% เป็นเงินลงทุนระยะกลาง → กองทุนผสมหรือตราสารหนี้
  • 5% เป็นเงินลงทุนระยะยาว → กองทุนหุ้นเพื่อความเติบโต

เทคนิคการออมเงินที่ได้ผลจริง

1. วิธี Auto Debit เพื่อวินัยการออม

การตั้ง Auto Debit เป็นวิธีการออมเงินที่มีประสิทธิภาพที่สุด

  • ตั้งให้หักเงินอัตโนมัติทันทีหลังได้รับเงินเดือน
  • ไม่มีโอกาสใช้เงินที่ตั้งใจจะออม
  • สร้างวินัยการออมที่สม่ำเสมอ
  • ลดการตัดสินใจใช้เงินแบบฉับพลัน

2. เทคนิค "จ่ายตัวเองก่อน"

หลักการออมเงินที่ได้ผล คือการมองว่าเงินออมเป็น "ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น":

  • กำหนดเปอร์เซ็นต์การออมเป็น "บิลที่ต้องจ่าย"
  • จ่ายเงินออมก่อนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
  • ปรับค่าใช้จ่ายในส่วนที่เหลือให้เหมาะสม
  • สร้างนิสัยมองเงินออมเป็นความจำเป็น

3. วิธีการออมเงินแบบ "ขั้นบันได"

  เทคนิคเพิ่มจำนวนเงินออมอย่างค่อยเป็นค่อยไปเป็นขั้นบันได ซึ่งจะทำให้ร่างกายและจิตใจปรับตัวได้ง่ายขึ้นเช่น

  • เดือนที่ 1-3: ออม 10% ของรายได้
  • เดือนที่ 4-6: เพิ่มเป็น 15% ของรายได้
  • เดือนที่ 7 เป็นต้นไป: ออม 20% ของรายได้

วิธีเริ่มลงทุนกองทุนรวมด้วยเงินจำนวนน้อย

1.การเลือกระดับความเสี่ยงสำหรับผู้เริ่มต้น

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ ควรเริ่มต้นด้วยพอร์ตที่กระจายความเสี่ยง:

2.โครงสร้างพอร์ตสำหรับผู้เริ่มต้น (เงินลงทุน 1,000-5,000 บาท/เดือน)

ระยะเริ่มต้น - สร้างพื้นฐาน:

  • 40% กองทุนตลาดเงิน → สร้างเงินฉุกเฉินและความมั่นคง
  • 30% กองทุนตราสารหนี้ → ผลตอบแทนสม่ำเสมอ ความเสี่ยงต่ำ
  • 20% กองทุนผสม → เรียนรู้ความผันผวนและกระจายความเสี่ยง
  • 10% กองทุนหุ้น → ทดลองความเสี่ยงสูงและการเติบโต

3.วิธีการลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Averaging)

การลงทุนแบบ DCA เป็นเทคนิคที่เหมาะสมกับการออมเงินประจำ

3.1.ประโยชน์ของการลงทุน DCA

  • ลดความเสี่ยงจากจังหวะการลงทุน → ไม่ต้องเดาว่าตลาดจะขึ้นหรือลง
  • เฉลี่ยต้นทุนการลงทุน → ซื้อถูกเมื่อราคาลง ซื้อแพงเมื่อราคาขึ้น
  • สร้างวินัยการลงทุน → ลงทุนสม่ำเสมอไม่ว่าสภาพตลาดจะเป็นอย่างไร
  • เหมาะกับคนไม่มีเวลาดูตลาด → ลงทุนอัตโนมัติทุกเดือน

3.2.เมื่อไหร่ DCA ได้ประโยชน์มากที่สุด?

DCA จะให้ผลดีเมื่อ:

  • ตลาดมีความผันผวนสูง (ขึ้นลงบ่อย)
  • ลงทุนระยะยาวมากกว่า 1 ปี
  • เป็นนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจตลาด

ข้อจำกัดของ DCA:

  • หากตลาดขึ้นตลอด การลงทุนครั้งเดียวจะได้กำไรมากกว่า
  • ต้องมีวินัยในการลงทุนสม่ำเสมอ

  ซึ่งหากคุณสงสัยว่า “ทำไมซื้อกองทุนดีกว่าฝากเงิน? 5 ข้อเปรียบเทียบที่มือใหม่ต้องรู้!” ก็สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมกันได้เลย

แผนการออมเงินตามเป้าหมายการลงทุน

1.เป้าหมายระยะสั้น (1-3 ปี) - เงินฉุกเฉิน

  • เน้นกองทุนตลาดเงินและกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น
  • สภาพคล่องสูง เสี่ยงต่ำ สามารถถอนได้เมื่อต้องการ

2.เป้าหมายระยะกลาง (3-7 ปี) - ซื้อบ้าน/รถ/การศึกษา

  • ผสมผสานระหว่างกองทุนตราสารหนี้และกองทุนผสม
  • สมดุลความเสี่ยงกับผลตอบแทนที่เหมาะสม

3.เป้าหมายระยะยาว (7+ ปี) - เกษียณ/ความมั่งคั่ง

  • เพิ่มสัดส่วนกองทุนหุ้นเพื่อผลตอบแทนที่สูงขึ้น
  • กระจายความเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศ

ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงในการออมลงทุน

1. ออมเงินไม่สม่ำเสมอ

  • ปัญหา: การออมเงินเป็นครั้งคราวทำให้พลาด compound effect 
  • วิธีแก้: ตั้ง Auto Debit และถือเป็นค่าใช้จ่ายบังคับ

2. เริ่มลงทุนโดยไม่มีเงินฉุกเฉิน

  • ปัญหา: เมื่อมีเหตุฉุกเฉินต้องขายการลงทุนขาดทุน 
  • วิธีแก้: สร้างเงินฉุกเฉิน 3-6 เดือนก่อนลงทุนเสี่ยงสูง

3. ลงทุนโดยไม่เข้าใจความเสี่ยง

  • ปัญหา: ตกใจเมื่อการลงทุนขาดทุนและตัดสินใจผิดพลาด 
  • วิธีแก้: ศึกษาและเริ่มต้นจากความเสี่ยงต่ำไปสูง

4. ไม่มีเป้าหมายชัดเจน

  • ปัญหา: ออมเงินไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้จุดหมายปลายทาง 
  • วิธีแก้: กำหนดเป้าหมาย จำนวนเงิน และระยะเวลาที่ชัดเจน

บทบาทของที่ปรึกษาการลงทุนในการออมเงิน

ที่ปรึกษาการลงทุนมืออาชีพจะช่วยให้

  • วิเคราะห์โปรไฟล์ความเสี่ยงที่เหมาะสมกับคุณ
  • สร้างแผนการออมเงินที่สอดคล้องกับเป้าหมาย
  • เลือกกองทุนรวมที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา
  • ติดตามและปรับปรุงแผนตามสภาวะตลาดและสถานการณ์ส่วนตัว

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: ควรออมเงินเท่าไหร่จึงจะเพียงพอสำหรับการลงทุน?

A: แนะนำให้ออมเท่าที่สามารถออมได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน โดยอาจเริ่มต้นที่ 5% และเพิ่มจนถึง 20% ของรายได้ก็ได้เช่นกัน ซึ่งคุณสามารถเริ่มต้นลงทุนกองทุนรวมได้ตั้งแต่ 1,000 บาทต่อเดือน การลงทุนแบบ DCA จะช่วยสร้างวินัยและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด

Q: หากมีเงินออมน้อย ควรลงทุนกองทุนแบบไหนก่อน?

A: ควรเริ่มจากกองทุนตลาดเงินเพื่อสร้างเงินฉุกเฉิน จากนั้นค่อยลงทุนในกองทุนตราสารหนี้และกองทุนผสม เมื่อมีประสบการณ์แล้วจึงเพิ่มสัดส่วนกองทุนหุ้น

Q: การออมเงินเพื่อเกษียณควรเริ่มเมื่อไหร่?

A: ควรเริ่มออมเงินเพื่อเกษียณตั้งแต่ได้งานทำ เพราะยิ่งเริ่มต้นเร็ว พลังของ compound interest จะช่วยให้เงินออมเติบโตมากขึ้น คนที่เริ่มออมอายุ 25 ปี จะต้องออมน้อยกว่าคนที่เริ่มออมอายุ 35 ปี มาก

การเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนอนาคตของคุณ

  การออมเงินเพื่อลงทุนในกองทุนรวมเป็นเส้นทางที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างความมั่งคั่งระยะยาวได้จริง การมีแผนการออมที่ชัดเจน การเลือกระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม และการลงทุนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน การศึกษาบุตร หรือการเกษียณอย่างมั่นคง กุญแจสำคัญคือการเริ่มต้นวันนี้และความสม่ำเสมอในการออมลงทุน

  หากคุณกำลังมองหาวิธีออมเงินและลงทุนที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ Yuanta Securities พร้อมเป็นพันธมิตรการลงทุนของคุณด้วยประสบการณ์กว่า 49 ปี ใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. และเครื่องมือการลงทุนที่ทันสมัย 

  ทีมนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาการวางแผนการออมเงินและการลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณ เปิดบัญชีได้ที่ https://www.yuanta.co.th/ หรือติดต่อสอบถาม เพื่อเริ่มต้นเส้นทางการออมและลงทุนที่จะเปลี่ยนอนาคตทางการเงินของคุณ