กฎทองของการลงทุน เริ่มต้นจากการเข้าใจแนวโน้มตลาด! ไม่ว่าคุณจะเก่งเลือกหุ้นแค่ไหน หากอ่านทิศทางตลาดผิด 
กำไรก็อาจกลายเป็นขาดทุนได้ในพริบตา แต่หากมีเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ตลาดและแบ่งสัดส่วนเงินลงทุนอย่างชาญฉลาดล่ะ?
ㅤㅤ 
วันนี้ผมจะแชร์วิธีใช้ TRADEMAN ในการอ่านสัญญาณตลาด
และจัดสรรเงินลงทุนให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ 
เพื่อผลตอบแทนที่สูงสุดและความเสี่ยงที่คุมได้
ㅤㅤㅤㅤ
เริ่มจากทำไมต้องวิเคราะห์แนวโน้มตลาด?

1 (2).webp

1.แนวโน้มตลาดโดยรวมมีอิทธิพลต่อหุ้นส่วนใหญ่ 
แม้หุ้นที่ดีก็อาจลดลงได้ หากตลาดกำลังอยู่ในช่วงขาลง 
ในขณะที่หุ้นปกติก็อาจขึ้นได้หากตลาดกำลังขาขึ้น
ㅤㅤ
2.การจัดสรรเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อทราบว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงไหน 
จะสามารถตัดสินใจได้ว่าควรลงทุนเชิงรุก
หรือป้องกันความเสี่ยง รวมถึงการกำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น
ㅤㅤ
3.การเลือกหุ้นให้เหมาะสมกับช่วงเวลา
ในช่วงเศรษฐกิจเติบโต อาจเน้นหุ้นเติบโต หรือ หุ้นวัฏจักร 
ส่วนในช่วงถดถอยอาจเน้น หุ้นปลอดภัยหรือหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอ

2 (2).webp

การแบ่งสัดส่วนเงินลงทุนดีอย่างไร?
ㅤㅤ
1.การกระจายความเสี่ยง (Diversification)
การแบ่งเงินลงทุนไปในหุ้นหลายตัว หลายกลุ่มอุตสาหกรรม 
ช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาหุ้นตัวเดียว 
หากหุ้นตัวหนึ่งขาดทุน หุ้นตัวอื่นอาจชดเชยได้
ㅤㅤ
2.การสร้างผลตอบแทนที่สมดุล
การผสมระหว่างหุ้นที่มีความเสี่ยงต่างกัน 
ช่วยสร้างผลตอบแทนที่สมดุลระหว่างการเติบโตและความมั่นคง
ㅤㅤ
3.การป้องกันการตัดสินใจแบบอารมณ์
เมื่อมีแผนการแบ่งสัดส่วนที่ชัดเจน 
จะช่วยป้องกันการซื้อขายตามอารมณ์หรือข่าวลือ

3 (2).webp

วิเคราะห์แนวโน้มตลาดแบบอัตโนมัติด้วย Market Analysis
ㅤㅤ
1.คลิกเมนูหลัก
2.คลิก Analysis
3.คลิก Market Analysis

4 (2).webp

ตัวอย่างผลการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดด้วย Market Analysis
ㅤㅤ
ยกตัวอย่าง สรุปทิศทางตลาด แนวโน้มขาลง ระยะสั้น
SET ย่อตัวระยะสั้น มีโอกาสขึ้นในระยะกลาง 
ต่างชาติมีโอกาสขายต่อเนื่อง 
สถานการณ์เหมาะสำหรับการเล่น Short เก็งกำไรขาลงจะเสี่ยงต่ำกว่า

5.webp

ตัวอย่างการแบ่งสัดส่วนเงินลงทุนด้วย Market Analysis
ㅤㅤ
ยกตัวอย่าง
สถานการณ์นี้ควรแบ่งเงินลงทุนในสัดส่วน
ขาขึ้น 40%
ขาลง 60%
ㅤㅤㅤ
การลงทุนที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การเดาทาย แต่อยู่ที่การวิเคราะห์และการจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ 
TRADEMAN ช่วยให้คุณมองภาพรวมของตลาดได้ชัดเจน พร้อมทั้งแนะแนวทางการแบ่งสัดส่วนเงินลงทุนที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลา 
เพราะนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จรู้ว่า 'เมื่อไหร่ควรเร่ง เมื่อไหร่ควรเบรก' เริ่มสร้างกลยุทธ์การลงทุนที่แข็งแกร่งได้วันนี้ 
จำไว้... นักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้เก่งแค่การเลือกหุ้น แต่เก่งการบริหารความเสี่ยงและจับจังหวะตลาด!