ภาษีเงินปันผลเป็นภาษีที่ผู้ลงทุนหุ้นทุกคนต้องเจอ เมื่อได้รับเงินปันผลจากหุ้นที่ลงทุน ซึ่งในปี 2025 มีการปรับอัตราภาษีและกฎเกณฑ์ใหม่ที่นักลงทุนต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจน เพื่อวางแผนภาษีอย่างถูกต้องและประหยัดที่สุด
การเข้าใจภาษีเงินปันผลมีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่หุ้นปันผลกลายเป็นกลยุทธ์การลงทุนยอดนิยม เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่มั่นคงและสามารถสร้างกระแสเงินสดสม่ำเสมอ แต่ผู้ลงทุนต้องคำนึงถึงภาระภาษีที่จะเกิดขึ้นด้วย
จากบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้ทุกสิ่งที่จำเป็นเกี่ยวกับภาษีเงินปันผล ตั้งแต่ความหมาย วิธีคำนวณ อัตราภาษีปัจจุบัน ไปจนถึงเทคนิคการประหยัดภาษีอย่างถูกกฎหมาย
ภาษีเงินปันผลคืออะไร?
ภาษีเงินปันผล คือภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บจากรายได้ที่ผู้ถือหุ้นได้รับในรูปแบบเงินปันผลจากบริษัทที่ตนลงทุน ไม่ว่าจะเป็นเงินปันผลสด (Cash Dividend) หรือหุ้นปันผล (Stock Dividend) โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ภาษีเงินปันผลแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ภาษีเงินปันผลสดที่เรียกเก็บจากเงินสดที่ได้รับ ภาษีหุ้นปันผลที่เรียกเก็บจากมูลค่าตามราคาตลาด และภาษีเงินปันผลพิเศษที่จ่ายเป็นครั้งคราวนอกเหนือจากปันผลประจำปี
ทำไมต้องสนใจภาษีเงินปันผล?
การทำความเข้าใจภาษีเงินปันผลมีความสำคัญในหลายด้าน ประการแรก ช่วยให้ระบบภาษีมีความเป็นธรรมมากขึ้น โดยผู้ที่มีรายได้สูงจะเสียภาษีมากกว่า ประการที่สอง สร้างรายได้ให้รัฐบาลเพื่อนำไปพัฒนาประเทศและสาธารณูปโภค
ตามข้อมูลจากกรมสรรพากรปี 2024 พบว่า รายได้ของกรมสรรพากรจากภาษีเงินปันผลคิดเป็น 12.3% ของรายได้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้งหมด ดังนั้น นักลงทุนต้องและมีการวางแผนภาษีที่ดีถึงซึ่งจะสามารถช่วยประหยัดภาษีที่ต้องจ่ายได้ (ประหยัดมากถึง 15-25%)
ถ้าหากเป็นคนเริ่มทำงานสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “เงินเดือนเท่าไรต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดา? 4 ขั้นตอนวางแผนภาษีสำหรับคนเริ่มทำงาน ”
วิธีคำนวณภาษีเงินปันผลอย่างไรให้ถูกต้อง?
1. รวบรวมและคำนวณเงินปันผล
เริ่มต้นด้วยการรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ใบแสดงการจ่ายเงินปันผลจากบริษัท (ใบ ภง.ด.54) รายงานการถือครองหุ้น ณ วันปิดสมุดทะเบียน และเอกสารแสดงจำนวนเงินปันผลที่ได้รับในแต่ละครั้ง
จากนั้นคำนวณเงินปันผลที่ได้รับทั้งปี โดยรวมเงินปันผลสดที่ได้รับจากทุกบริษัท คำนวณมูลค่าหุ้นปันผลตามราคาตลาด ณ วันที่ได้รับ และหักเครดิตภาษี (Tax Credit) ที่บริษัทหักไว้แล้ว
2. คำนวณภาษีและยื่นแบบแสดงรายการ
นำเงินปันผลที่คำนวณได้มารวมกับรายได้อื่น จากนั้นใช้ตารางอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีล่าสุด หักลดหย่อนภาษีต่างๆ ที่มีสิทธิ์ และคำนวณภาษีที่ต้องชำระเพิ่มเติมหรือได้รับคืน
สุดท้ายจัดทำและยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91 พร้อมแนบเอกสารประกอบที่จำเป็น และยื่นภายในกำหนด 31 มีนาคมของปีถัดไป
ข้อควรระวังและความเสี่ยง
สิ่งที่ต้องระวัง
การไม่รายงานเงินปันผลที่ได้รับ เป็นความเสี่ยงแรกที่สำคัญ เนื่องจากอาจถูกปรับเพิ่มภาษี 200% และดอกเบี้ย 1.5% ต่อเดือน วิธีป้องกันคือบันทึกรายการเงินปันผลทุกครั้งที่ได้รับ
การคำนวณอัตราภาษีผิด ทำให้ชำระภาษีไม่ครบหรือเกินจำเป็น ควรศึกษาตารางอัตราภาษีล่าสุดและใช้เครื่องมือคำนวณที่เชื่อถือได้
การพลาดกำหนดยื่นแบบแสดงรายการ จะถูกปรับ 200 บาท และดอกเบี้ยผิดนัด ควรตั้งแจ้งเตือนในปฏิทินและเตรียมเอกสารล่วงหน้า
ตัวอย่างการคำนวณ
นายก พนักงานบริษัทที่มีเงินเดือน 50,000 บาท/เดือน ได้รับเงินปันผลจากหุ้น PTT 15,000 บาท หุ้น KBANK 8,000 บาท และหุ้น CPALL 5,000 บาท รวมเงินปันผล 28,000 บาท
การคำนวณ: รายได้จากเงินเดือน 600,000 บาท บวกเงินปันผล 28,000 บาท ได้รายได้รวม 628,000 บาท หักค่าลดหย่อน 90,000 บาท เหลือรายได้สุทธิ 538,000 บาท ทำให้ต้องชำระภาษีเพิ่มเติมจากเงินปันผลประมาณ 2,800 บาท
อัตราภาษีเงินปันผลปี 2025
เทคนิคประหยัดภาษีอย่างถูกกฎหมาย
1. การจับเวลาการรับเงินปันผล
ใช้เทคนิค Tax Loss Harvesting โดยขายหุ้นที่ขาดทุนในปีเดียวกับที่ได้รับเงินปันผลมาก หรือวางแผนให้ได้รับเงินปันผลกระจายไปหลายปี
2. การใช้ประโยชน์จากค่าลดหย่อนภาษี
ลงทุนใน LTF/RMF เพื่อลดรายได้สุทธิที่ต้องเสียภาษี หรือบริจาคเพื่อการกุศลเพื่อลดหย่อนได้สูงสุด 10% ของรายได้
สิ่งสำคัญที่ต้องจำและขั้นตอนถัดไป
ภาษีเงินปันผลเป็นส่วนหนึ่งของภาษีเงินได้ที่ต้องคำนวณรวมกับรายได้อื่น การวางแผนภาษีล่วงหน้าช่วยประหยัดเงินได้มาก และการทำความเข้าใจกฎหมายภาษีปัจจุบันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดกฎหมาย
เริ่มต้นวางแผนภาษีเงินปันผลของคุณวันนี้ โดยการบันทึกรายการเงินปันผลที่ได้รับ และศึกษาเทคนิคการประหยัดภาษีที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ
นอกจากนี้ยังสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “เสียภาษีมากเกินไปหรือเปล่า? วิธีคิดภาษีที่ถูกต้องที่มือใหม่ควรรู้ในปี 2025”
คำถามที่นักลงทุนถามบ่อยที่สุดเรื่องภาษีเงินปันผล
Q1: ภาษีเงินปันผลคืออะไร?
A1: ภาษีที่รัฐเรียกเก็บจากเงินปันผลที่ผู้ถือหุ้นได้รับ โดยรวมเข้ากับรายได้อื่นเพื่อคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
Q2: ต้องมีเงินปันผลเท่าไหร่ถึงจะต้องเสียภาษี?
A2: ต้องรายงานทุกจำนวน แต่จะเสียภาษีขึ้นอยู่กับรายได้รวมทั้งปีและค่าลดหย่อน
Q3: คำนวณภาษีเงินปันผลอย่างไร?
A3: รวมเงินปันผลกับรายได้อื่น หักค่าลดหย่อน คำนวณภาษีตามตาราง แล้วหักภาษีที่หักไว้แล้ว
Q4: การไม่ยื่นภาษีเงินปันผลมีความเสี่ยงหรือไม่?
A4: มีความเสี่ยงสูง อาจถูกปรับเพิ่มภาษี 200% พลัสดอกเบี้ย 1.5% ต่อเดือน
Q5: มีวิธีประหยัดภาษีเงินปันผลหรือไม่?
A5: ใช่ เช่น การลงทุน LTF/RMF การบริจาค หรือการจับเวลารับเงินปันผล
Q6: ใช้เวลานานแค่ไหนในการคำนวณ?
A6: สำหรับผู้มีความรู้พื้นฐาน ใช้เวลา 2-4 ชั่วโมง หากไม่มีประสบการณ์อาจใช้ 1-2 วัน