กองทุน ETF (Exchange Traded Fund)

ETF คือกองทุนเปิดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งผสมผสานข้อดีของ หุ้น และ กองทุนรวม เข้าด้วยกัน ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายได้ตามราคาตลาดแบบ real time สะดวกเหมือนหุ้น ใช้เงินลงทุนไม่สูง ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายต่ำ และยังใช้เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงในการลงทุนได้เมื่อผู้ลงทุนมีมุมมองที่หลากหลายขึ้นในภาวะตลาดต่าง ๆ กองทุน ETF จึงได้พัฒนากลยุทธ์ที่เรียกว่า Leveraged & Inverse ETF (L&I ETFs) ซึ่งมีลักษณะและความเสี่ยงแตกต่างจาก ETF ทั่วไป

ลักษณะของ Leveraged & Inverse ETF (L&I ETFs)

  • Leveraged ETF คือ กองทุนที่ตั้งเป้าให้ผลตอบแทนรายวันเป็นทวีคูณ เมื่อเทียบกับการเคลื่อนไหวของดัชนีอ้างอิง เช่น กองทุน 2X มุ่งหวังให้ผลตอบแทน 2 เท่าของการเปลี่ยนแปลงดัชนีอ้างอิง 

  • Inverse ETF คือ กองทุนที่ตั้งเป้าให้ผลตอบแทนรายวันในทิศทางตรงข้ามกับดัชนีอ้างอิง เช่น

    • กองทุน -1X  มุ่งหวังให้ หากดัชนีลดลง 1% กองทุนจะเพิ่มขึ้นประมาณ 1%  หรือ

    • กองทุน -2X  มุ่งหวังให้ หากดัชนีลดลง 1% กองทุนจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2%

       

เครื่องมือการลงทุนของ L&I ETFs

L&I ETFs ส่วนใหญ่การบริหารจัดการกองทุนอาศัยการลงทุนผ่าน สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (derivatives) เช่น ฟิวเจอร์ส (Futures) และสวอป (Swap) เพื่อสร้างผลตอบแทนตามนโยบาย (เช่น 2X, -1X, -2X) เนื่องจากผลตอบแทนถูกอ้างอิงกับดัชนีรายวัน ผู้จัดการกองทุนจึงต้อง ปรับสัดส่วนการลงทุนทุกวัน (Daily reset) และคำนวณผลตอบแทนแบบทบต้นรายวัน (Compounding effect) ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่ถือกองทุนต่อเนื่องหลายวัน ได้รับผลตอบแทนที่แตกต่างจากที่คาดหวังไว้

คำเตือนและข้อกำหนดสำหรับการลงทุนในผลิตภัณฑ์ L&I ETFs

คำเตือน: L&I ETFs ออกแบบเพื่อการลงทุนระยะสั้น มุ่งสร้างผลตอบแทนเป็นสัดส่วนกับดัชนีอ้างอิงเป็นรายวัน (Daily reset) และคำนวณผลตอบแทนแบบทบต้น (Compounding Effect) ซึ่งทำให้การถือครองเกินกว่า 1 วันอาจให้ผลตอบแทนเบี่ยงเบนจากสัดส่วนการเปลี่ยนแปลงของดัชนีที่มุ่งหวัง โดยเฉพาะในภาวะที่ตลาดผันผวน  นอกจากนี้ การจัดการกองทุนมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงอาจทำให้ผลตอบแทนของกองทุนแตกต่างจากการเปลี่ยนแปลงของดัชนี

ผลิตภัณฑ์นี้ไม่เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว (buy & hold) หรือไม่สามารถติดตามการลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอ

ผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ L&I ETFs เพิ่มเติมได้ที่  https://www.youtube.com/watch?v=sRR287kMtLk

 

ตัวอย่างที่ 1: แนวโน้มขาขึ้น (Continuous Upward Trend)

  • สมมติว่าดัชนีอ้างอิงปรับเพิ่มขึ้นวันละ 10% เป็นเวลา 4 วันทำการติดต่อกัน

  • ผลตอบแทนของกองทุน 2X leveraged ETF จะดีกว่าสองเท่าของผลตอบแทนสะสมของดัชนีอ้างอิง หากถือครองมากกว่าหนึ่งวันทำการ (กรณีไม่มีค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการและไม่มีความคลาดเคลื่อนในการติดตามดัชนีอ้างอิง)

  • จากกราฟและตารางแสดงให้เห็นว่า: ดัชนีอ้างอิงเพิ่มขึ้น 46% ภายใน 4 วัน ในขณะที่กองทุน 2X leveraged ให้ผลตอบแทนสะสมถึง 107% ซึ่งมีผลตอบแทนมากกว่าสองเท่าของผลตอบแทนดัชนีอ้างอิงที่คำนวณแบบธรรมดา

Scenario 1.webp

Source : Nasdaq

 

ตัวอย่างที่ 2 : แนวโน้มขาลงต่อเนื่อง (Continuous Downward Trend)

  • สมมติว่าดัชนีอ้างอิงปรับลดลงวันละ 10% เป็นเวลา 4 วันทำการติดต่อกัน

  • ผลตอบแทนของกองทุน 2X leveraged จะปรับลดลงน้อยกว่าสองเท่าของผลตอบแทนสะสมของดัชนีอ้างอิง หากถือครองมากกว่าหนึ่งวันทำการ (กรณีไม่มีค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการและไม่มี
    ความคลาดเคลื่อนในการติดตามดัชนีอ้างอิง)

  • จากกราฟและตารางแสดงให้เห็นว่า: ดัชนีอ้างอิงปรับลดลง 34% ภายใน 4 วัน ในขณะที่กองทุน 2X leveraged ให้ผลขาดทุนสะสมที่ 59%  ซึ่งมีผลขาดทุนน้อยกว่าสองเท่าของผลตอบแทนดัชนีอ้างอิง
    ที่คำนวณแบบธรรมดา

Scenario 2.webp

Source : Nasdaq

 

ตัวอย่างที่ 3 : แนวโน้มการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ (Sideway trend)

  • สมมติว่าดัชนีอ้างอิงเคลื่อนไหวขึ้นลงในกรอบแคบใกล้เคียงกับราคาต้นทุน

  • ผลตอบแทนของกองทุน 2X leveraged จะปรับลดลงต่ำกว่าผลตอบแทนสะสมของดัชนีอ้างอิง หากถือครองมากกว่าหนึ่งวันทำการ (กรณีไม่มีค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการและไม่มีความคลาดเคลื่อนในการติดตามดัชนีอ้างอิง)

  • จากกราฟและตารางแสดงให้เห็นว่า: ใน 4 วัน ดัชนีอ้างอิงผันผวนกลับมาอยู่ที่จุดเดิม ในขณะที่กองทุน 2X leveraged ให้ผลขาดทุนสะสมที่ 7%  ซึ่งมีผลขาดทุนมากกว่าสองเท่าของผลตอบแทนดัชนีอ้างอิงที่คำนวณแบบธรรมดา

Scenario 3.webp

Source : Nasdaq